เจาะลึกปัญหากวนใจ ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น จะรับมืออย่างไรดี?

เจาะลึกปัญหากวนใจ ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น จะรับมืออย่างไรดี?

ผิวแห้งและผิวขาดความชุ่มชื้นเป็นปัญหาที่หลายคนอาจเคยได้ยินหรือกำลังประสบอยู่ แต่ทราบหรือไม่ว่าทั้งสองนี้มีความแตกต่างกัน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังเผชิญกับปัญหาผิวประเภทใด? และควรดูแลรักษาอย่างไรดี?

เริ่มแรก เราควรทำความเข้าใจว่าผิวแห้งและผิวขาดความชุ่มชื้นนั้นคืออะไร และมีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อที่เราจะสามารถรับมือกับปัญหาผิวเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง โดยการรู้จักต้นตอของสาเหตุ วิธีป้องกัน และวิธีดูแลรักษาที่เหมาะสม

ผิวแห้ง VS ผิวขาดน้ำ

ผิวหน้าที่แห้งและลอกเป็นขุยเกิดจากสภาพผิวแห้งซึ่งเป็นลักษณะที่มีมาตั้งแต่กำเนิด คล้ายกับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม โดยแต่ละบุคคลจะมีสภาพผิวที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการทำงานของต่อมไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง

ผิวแห้งเกิดขึ้นเมื่อต่อมไขมันผลิตน้ำมันน้อยกว่าปกติ ทำให้น้ำมันที่หล่อเลี้ยงผิวไม่เพียงพอ ผลที่ตามมาคือผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี สังเกตได้จากผิวที่แห้งตึงหลังการล้างหน้า ผิวที่แห้งกร้าน และผิวที่แห้งและลอกเป็นขุย นอกจากนี้ผิวยังอ่อนแอและมีแนวโน้มที่จะแพ้ง่าย ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าผิวปกติ

ผิวขาดน้ำหรือขาดความชุ่มชื้นเกิดขึ้นเมื่อผิวมีน้ำใต้ผิวน้อย ซึ่งมักเกิดในช่วงที่ผิวไม่ได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอ ทำให้ผิวหน้าผลิตน้ำมันมากกว่าปกติเพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่สูญเสียไป สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีผิวผสม ผิวแห้ง และผิวมัน ผลที่ตามมาคืออาจรู้สึกว่าผิวหน้ามันในบางครั้งและแห้งในบางครั้ง หรือบางครั้งหลังล้างหน้าผิวจะแห้ง แต่ระหว่างวันผิวหน้ากลับมันเยิ้มผิดปกติ

ผิวขาดน้ำเกิดจากการที่ผิวหนังชั้นบนสุดผลิตเคราตินน้อยลง ซึ่งเคราตินมีหน้าที่ช่วยกักเก็บน้ำให้ผิว ดังนั้น เมื่อร่างกายผลิตเคราตินน้อยลง ผิวจึงสูญเสียความชุ่มชื้นและระคายเคืองง่าย นอกจากนี้ สาเหตุของผิวขาดน้ำยังเกิดจากไลฟ์สไตล์ เช่น การดื่มน้ำน้อย การพักผ่อนไม่เพียงพอ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการใช้ชีวิตในห้องที่มีแอร์เป็นต้น

วิธีดูแลรักษาปัญหา ผิวแห้ง และผิวขาดน้ำ

การดูแลผิวที่แห้งและขาดน้ำสามารถทำได้ดังนี้:

1. ดื่มน้ำให้เพียงพอทุกวัน เพื่อรักษาสมดุลของร่างกายและช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 2 ลิตรหรือประมาณ 6-8 แก้วต่อวัน

2. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดหรืองดอาหารที่มีไขมันสูง ทอด น้ำตาล คาเฟอีน และแอลกอฮอล์ และเน้นอาหารที่มีความชุ่มชื้น เช่น ผลไม้ ผัก และอาหารที่มีโอเมก้า 3 และคอลลาเจน

3. พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และหลีกเลี่ยงการนอนดึก เพื่อให้ผิวดูสดใสและชุ่มชื้น

4. ล้างหน้าไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน เพื่อป้องกันการแห้งตึงและภาวะขาดน้ำของผิว

5. หลีกเลี่ยงการขัดหน้าแบบรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการใช้สครับที่มีเนื้อแข็งหรือหยาบ การลอกหน้า หรือการใช้แปรงนวดหน้าที่ขนหยาบ เพื่อป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นและการระคายเคืองผิว

6. การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีแอลกอฮอล์, น้ำหอม, สี, พาราเบน, เรตินอยด์, และสารซัลเฟต เนื่องจากสารเหล่านี้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและการอักเสบ

สำหรับผิวหน้าที่ขาดน้ำและแห้ง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมน้ำและให้ความชุ่มชื้นได้นาน เช่น เซรั่มที่มี Hyaluronic Acid โมเลกุลเล็กที่ซึมเข้าชั้นผิวได้ทั่วถึง เช่น iCon Face Serum ซึ่งเป็นเซรั่มบำรุงผิวหน้าอย่างอ่อนโยน มีเนื้อเซรั่มนาโนที่ซึมลึกเข้าสู่ผิวชั้นใน ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิว กักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอย และทำให้ผิวกระจ่างใสอย่างธรรมชาติ ดูเปล่งปลั่งเหมือนผิวกระจก

หากเราเข้าใจความแตกต่างระหว่างผิวแห้งและผิวขาดน้ำ รวมถึงสาเหตุและวิธีการดูแล ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ดังนั้นควรเริ่มดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น iCon Face Serum จะช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าแห้งลอก ขาดความชุ่มชื้น และบำรุงผิวให้มีสุขภาพดี